สาเหตุของโรคเกาต์ ทำไมคนเราถึงเป็น?
โรคเกาต์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดและบวมในข้อ โดยเฉพาะที่นิ้วโป้งเท้า แต่มันจะไม่จบเพียงแค่นั้น เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับสาเหตุของโรคเกาต์กันดีกว่า ว่าทำไมถึงเกิดขึ้นได้
เกิดจากระดับกรดยูริคในเลือดสูง
หนึ่งในสาเหตุหลักของโรคเกาต์คือ การมีระดับกรดยูริค (Uric Acid) ในเลือดสูงเกินไป กรดยูริคเกิดจากการสลายสารที่เรียกว่า "พิวรีน" ซึ่งมีอยู่ในอาหารและกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกาย ถ้าระดับกรดยูริคสูงเกินไป มันจะเริ่มสะสมในรูปแบบของผลึกในข้อ ทำให้เกิดอาการอักเสบและปวดขึ้น
อาหารที่มีพิวรีนสูง
อาหารที่อุดมไปด้วยพิวรีน เช่น:
- เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อแดง)
- อาหารทะเล (เช่น หอยปีกนก, กุ้ง)
- เครื่องใน (เช่น ตับ, ไต)
- น้ำตาลและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแฟรคโตสสูง
หากคุณรับประทานอาหารเหล่านี้ในปริมาณมาก อาจทำให้ระดับกรดยูริคในร่างกายสูงขึ้นได้
สาเหตุอื่น ๆ
นอกจากอาหารแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้คุณมีโอกาสเป็นโรคเกาต์เช่น:
- น้ำหนักตัวเกิน: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่ามาตรฐานมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเกาต์
- ประวัติครอบครัว: หากในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเกาต์ คุณอาจมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น
-
อายุและเพศ: โรคเกาต์มักจะเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมักพบในผู้สูงอายุ
การจัดการภาวะเกาต์
การจัดการกับโรคเกาต์จำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเลือกอาหารที่มีพิวรีนต่ำและดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนั้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบระดับกรดยูริคในร่างกายและปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาที่เหมาะสม
สรุป
โรคเกาต์เป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนอาหาร ขอแนะนำให้ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน และหากมีอาการที่สงสัย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจโรคเกาต์ได้ดียิ่งขึ้น!