ทำไมมือและเท้าของคุณบ่อยครั้งที่เป็นโรคชา?
คุณเคยรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ที่มือหรือเท้าบ้างไหม? อาการนี้เรียกว่า “โรคชา” ซึ่งหลายคนอาจเคยประสบมาก่อน และมักทำให้รู้สึกไม่สบายใจ วันนี้เรามาลองทำความเข้าใจว่า เพราะอะไรมือและเท้าของเราถึงชาได้บ่อยครั้งกันเถอะ!
อาการชาเกิดจากอะไร?
อาการชาเกิดจากการที่ระบบประสาทของเรามีปัญหา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
-
การถูกกดทับ: เมื่อเรานั่งหรืออยู่ในท่าเดิมนานๆ อาจทำให้เส้นประสาทโดนกดทับ ส่งผลให้รู้สึกชาได้ เช่น การนั่งไขว่ห้างนานๆ อาจทำให้ขาและเท้าชาได้
-
การไหลเวียนของเลือดไม่ดี: หากเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังมือหรือเท้าได้ดี ก็อาจทำให้เกิดอาการชาได้เช่นกัน เช่น การมีภาวะเส้นเลือดอุดตัน
-
โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท: เช่น โรคเบาหวาน โรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการชาเรื้อรังได้
ทำไมมือและเท้าถึงชาบ่อย?
-
ท่านั่งหรือท่ายืนที่ไม่ถูกต้อง
การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานสามารถส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของเส้นประสาทได้ -
ภาวะทางการแพทย์
บางโรค เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคปลายประสาทอักเสบ สามารถทำให้เกิดอาการชาดังกล่าวได้บ่อยครั้ง -
การใช้เทคโนโลยีเสมอ
การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างโทรศัพท์มือถือ หรือแล็ปท็อปนานๆ อาจทำให้มือชาได้ เนื่องจากท่าทางที่ไม่เหมาะสม
ควรทำอย่างไรเมื่อมีอาการชา?
-
- เปลี่ยนอิริยาบถ: หากคุณนั่งหรืออยู่ในท่าเดิมนานๆ ให้ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง
- ตรวจสุขภาพ: หากอาการชาเป็นประจำ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
-
ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอย่างดี
สรุป
อาการมือและเท้าชาอาจเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรให้ความใส่ใจและปรึกษาแพทย์ เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมมากขึ้นนะ! การดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องจะช่วยให้เราห่างไกลจากความรู้สึกไม่สบายนี้ได้ค่ะ